สรุปข้อกำหนด
หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์
จากข้อกำหนด
หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขสำหรับการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์
พ.ศ.2538 และแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์
(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2549
การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
1. คุณสมบัติของผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อ (มาตรา 7)
1.1
มีความประพฤติดี
1.2
ไม่เคยต้องโทษจำคุณโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดย
ประมาทหรือความผิดลหุโทษ
1.3
ไม่เคยถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามกฎหมาย
เว้นแต่เป็นการต้องส่งคืนเนื่องจากได้รับ
พระราชทานในชั้นสูงขึ้น
2.
การกระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน (มาตรา 8)
แบ่งได้เป็น 2 ประเภท
2.1
ผลงาน (มาตรา 8 (1)) (สิ่งที่ส่งมาด้วย 1)
2.1.1
มีลักษณะ (มาตรา 9)
• เป็นผลงานดีเด่นหรือเป็นแบบอย่างอันควรแก่การสรรเสริญ
หรือ
•
เป็นการกระทำที่ฝ่าอันตรายหรือเสี่ยงภัยเพื่อปกป้องชีวิตหรือทรัพย์สินอันเป็นประโยชน์
ต่อสังคมหรือประเทศ
2.1.2 เงื่อนไข (มาตรา 10)
•
เป็นผลงานของตนเองและไม่เคยใช้เสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตาม
กฎหมายมาแล้ว
(ถ้าทำเป็นหมู่ต้องแยกผลงานของแต่ละบุคคลให้ชัดเจน)
•
ผลงานในฐานะบุคคลของนิติบุคคลต้องเป็นผลงานที่กระทำอันเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ
• ผลงานในฐานะบุคคลของคณะบุคคล
ต้องเป็นกิจกรรมที่เป็นการเฉพาะกิจและมี
ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ
สังคม หรือด้านอื่น ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์
• ผลงานที่กระทำให้แก่นิติบุคคล
นิติบุคคลนั้นต้องมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการ
อันเป็นสาธารณประโยชน์
หมายเหตุ นิติบุคคลที่เป็นหน่วยงานของรัฐ
ผลงานที่ใช้เสนอขอพระราชทาน ต้องไม่เป็นผลงาน
ตามปกติที่ต้องกระทำในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้น
2.1.3
ให้ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกองหรือส่วนราชการที่ฐานะเทียบกอง
สำหรับส่วนราชการของหน่วยงานที่ได้รับประโยชน์หรือเกี่ยวข้องเป็นผู้รับรองผลงาน
โดยต้องระบุผลงาน
การปฏิบัติงาน
และระยะเวลาการปฏิบัติงานในหน้าที่ต่าง ๆ (มาตรา
11)
2.1.4
ให้เสนอขอพระราชทาน ให้แก่
• ผู้ไม่เคยได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ
มาแล้วในกรณีปกติ ให้เริ่มต้นจากชั้นที่ 7
เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์
และให้เสนอขอพระราชทานในชั้นสูงขึ้นหนึ่งชั้นตามลำดับเมื่อกระทำความดีความชอบเพิ่มขึ้นจนถึงขั้นที่
1 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ โดยเว้นระยะเวลาแต่ละชั้นไม่น้อยกว่า 5 ปี (มาตรา 12)
• ผู้เคยได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ
มาแล้วในกรณีปกติ ให้เสนอขอพระราชทาน
ในชั้นสูงขึ้นหนึ่งชั้นตามลำดับ
โดยเว้นระยะเวลาแต่ละชั้นไม่น้อยกว่าห้าปี (มาตรา
12)
2.2
บริจาคทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์ (มาตรา 8 (2)) (สิ่งที่ส่งมาด้วย
2)
2.1 มีลักษณะ (มาตรา 13)
•
บริจาคทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น เพื่อการศาสนา การศึกษา
การสาธารณสุข การแพทย์ การพัฒนาชุมชน การสังคมสงเคราะห์ หรือความมั่นคงของชาติ และ
•
ทรัพย์สินที่บริจาคต้องเป็นของผู้บริจาคหรือมีสิทธิบริจาคในนามของตน
2.2
เงื่อนไข (มาตรา 14)
• ทรัพย์สินที่บริจาคต้องเป็นทรัพย์สินที่ไม่เคยใช้เสนอขอพระราชทานจนได้รับพระราชทาน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามกฎหมายมาแล้ว
• การบริจาคทรัพย์สินที่มีผู้ร่วมบริจาคหลายคน
ให้แสดงรายละเอียดด้วยว่าแต่ละคนบริจาคเป็นมูลค่าเท่าใด กรณีมิได้แสดงรายละเอียดไว้ให้ถือว่าบริจาคเป็นมูลค่าเท่า
ๆ กัน
•
ถ้าบริจาคทรัพย์สินให้แก่นิติบุคคล
นิติบุคคลนั้นต้องมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการอันเป็นสาธารณประโยชน์ ทั้งนี้ ตามรายชื่อที่สำนักนายกรัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
• การบริจาคทรัพย์สินที่มิใช่เงิน
ต้องมีหนังสือรับรองมูลค่าแห่งทรัพย์สินที่บริจาคจากส่วนราชการที่เสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ
หรือนิติบุคคลที่รับบริจาค หากเป็นที่ดินให้เจ้าพนักงานที่ดินเป็น ผู้ออกหนังสือรับรองมูลค่าของที่ดินนั้น
•
ทรัพย์สินที่บริจาคต้องไม่มีเงื่อนไขหรือภาระติดพันใด ๆ
การคำนวณมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาคให้คำนวณตามหลักเกณฑ์
(มาตรา 20) ดังนี้
ทรัพย์สินที่บริจาค
|
ตามราคา/คำนวณเป็น
|
1. ที่ดิน
|
เจ้าพนักงานที่ดินรับรองตามราคาประเมินทุนทรัพย์
เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่รับบริจาค
|
2. เงินตราต่างประเทศ
|
เงินตราไทยตามอัตราแลกเปลี่ยน
ณ เวลา และสถานที่ที่รับบริจาค
|
3. ทรัพย์สินอื่น
|
ราคาตลาดของทรัพย์สินในขณะที่รับบริจาค
|
2.3 การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นใดให้แก่ผู้กระทำความดีความชอบบริจาคทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์ให้เป็นไปตามจำนวนมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาคตามที่กำหนดไว้ใน
สิ่งที่ส่งมาด้วย 1 (มาตรา 21)
3. เอกสารประกอบการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ
ดิเรกคุณาภรณ์
3.1
ประเภทผลงาน รายละเอียดตามสิ่งที่มาด้วย
2 พร้อมแนบเอกสารจำนวนอย่างละ 1 ชุด ดังนี้
3.1.2 รายละเอียดของผลงาน / ประกาศจากสถาบันหรือหน่วยงานผู้ให้รางวัล
3.2 ประเภทบริจาคทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์
รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 พร้อมแนบเอกสารจำนวนอย่างละ 1 ชุด ดังนี้
3.2.1 แบบหนังสือรับรองแสดงรายการบริจาคทรัพย์สิน
(แบบ นร.2) พร้อมลงนามผู้บริจาค
3.2.2 สำเนาใบเสร็จรับเงิน
3.2.3 สำเนาทะเบียนบ้าน ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
3.2.4 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
|
บัญชีที่ 1
บัญชีแสดงจำนวนมูลค่าของทรัพย์สินที่เสนอขอพระราชทาน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ชั้นเครื่องราชฯ
|
มูลค่าของทรัพย์สิน
|
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ที่เสนอขอพระราชทาน
|
7
6
5
4
3
2
1
|
100,000 บาท ขึ้นไป
200,000 บาท ขึ้นไป
500,000 บาท ขึ้นไป
1,500,000 บาท ขึ้นไป
6,000,000 บาท ขึ้นไป
14,000,000 บาท ขึ้นไป
30,000,000 บาท ขึ้นไป
|
ต.ภ. (ตติยดิเรกคุณาภรณ์)
ท.ภ. (ทุติยดิเรกคุณาภรณ์) ป.ภ. (ปฐมดิเรกคุณาภรณ์) |
หมายเหตุ 1.
ชั้นของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เสนอขอพระราชทานขึ้นกับจำนวนมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค
2. จำนวนเงินที่บริจาคสามารถเก็บสมทบไว้ขอในปีต่อ
ๆ ไปได้
3.
ใบเสร็จที่ใช้ในการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์มาแล้ว ไม่สามารถนำมาใช้อีกได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น